กระบวนการขัดเกลาทางสังคม การขัดเกลาทางสังคมหมายถึง กระบวนการอบรมสั่งสอนสมาชิกให้เรียนรู้ระเบียบของสังคมเพื่อให้เห็นคุณค่าและนำเอากฎเกณฑ์ ระเบียบปฏิบัติเหล่านั้นไปเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติ การขัดเกลาสังคมเป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องได้รับตลอดชีวิต เพื่อที่จะทำให้มนุษย์สามารถปรับตัวเข้ากับสังคมที่ตนเป็นสมาชิดอยู่ได้เป็นอย่างดี การขัดเกลาทางสังคมอาจจำแนกได้ 2 ประเภท 1. การขัดเกลาทางสังคมโดยทางตรง เช่นการอบรมสั่งสอน ขัดเกลาที่พ่อแม่ให้กับลูก ไม่ว่าจะเป็นการสอนพูด สอนมารยาทในการรับประทานอาหาร หรือสอนให้เรียกพี่ น้อง ปู่ ย่า เป็นต้น ในกรณีนี้ผู้สอนและผู้รับจะรู้สึกตัวในกระบวนการอบรมสั่งสอนโดยตรง 2. การขัดเกลาทางสังคมโดยทางอ้อม เช่น การอ่านหนังสือพิมพ์ การฟังวิทยุหรือดูโทรทัศน์ ตลอดจนการดูภาพยนต์ ผู้รับจะเรียนรู้โดยไม่รู้ตัว โดยสิ่งที่เรียนรู้จะค่อยๆซึมซับเข้าไปจิตใต้สำนึกว่าสิ่งนั้นสิ่งนี้ที่สังคมยอมรับ และหากเป็นสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับกระทำในสิ่งที่แปลกแยกออกไป การขัดเกลาทางสังคมโดยทางอ้อมจะครอบคลุมไปถึง การเข้าร่วมกับกลุ่มเพื่อนด้วยและเพื่อนร่วมงาน ซึ่งจะช่วยให้เกิดการปรับตัวและการพัฒนาบุคลิก ความมุ่งหมายของกระบวนการขัดเกลาทางสังคม 1.
เพื่อปลูกฝังระเบียบวินัยแก่สมาชิกในสังคม 2. เพื่อปลูกฝังความมุ่งหวังที่สังคมยกย่อง 3. เพื่อให้สมาชิกในสังคมได้รู้จักบทบาทและหน้าที่ของตนตามกาลเทศะและความเหมาะสม 4.
ข้อมูลในบทความนี้จะพูดถึงความ หมาย ของ คํา ซ้อน หากคุณกำลังมองหาความ หมาย ของ คํา ซ้อนมาสำรวจกันกับในหัวข้อความ หมาย ของ คํา ซ้อนในโพสต์เรียนสนุกกับคําซ้อน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ม. 1นี้. ภาพรวมของเนื้อหาที่เกี่ยวข้องความ หมาย ของ คํา ซ้อนที่สมบูรณ์ที่สุดในเรียนสนุกกับคําซ้อน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ม. 1 ดูตอนนี้วิดีโอด้านล่าง ที่เว็บไซต์Mukilteo Montessoriคุณสามารถเพิ่มเอกสารอื่น ๆ นอกเหนือจากความ หมาย ของ คํา ซ้อนสำหรับข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์มากขึ้นสำหรับคุณ ในหน้า Mukilteo Montessori เราอัพเดทข่าวใหม่และแม่นยำทุกวันสำหรับคุณ, ด้วยความปรารถนาที่จะให้บริการเนื้อหาที่ละเอียดที่สุดสำหรับคุณ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถอัพเดทข้อมูลออนไลน์ได้อย่างแม่นยำที่สุด. ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหมวดหมู่ความ หมาย ของ คํา ซ้อน เรียนสนุกด้วยคำที่ซับซ้อน วิชาเรียนภาษาไทย ระดับกลุ่ม: มัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มวิชา: ภาษาไทย ชื่อเจ้าของงาน: นายปรัชญา ชิสาสตร์ เตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ นนทบุรี สังกัด: สสส. นนทบุรี ลิงก์เอกสาร: ภาพบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อของความ หมาย ของ คํา ซ้อน เรียนสนุกกับคําซ้อน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ม.
ครอบครัว เป็นตัวแทนสำคัญที่สุดในการทำหน้าที่ขัดเกลาทางสังคม เพราะเป็นสถาบันแรกที่เด็กจะได้ระบบการอบรมสั่งสอนและจะมีความผูกพันทางสายโลหิตอย่างลึกซึ้ง ซึ่งจะมีผลทางอารมณ์ ความประพฤติ เจตคติ ตลอดจนบุคลิกภาพองบุคคลมากที่สุด เช่น พ่อแม่สั่งสอนให้ลูกเป็นคนกตัญญู เป็นต้น 2. กลุ่มเพื่อน เป็นตัวแทนที่ทำหน้าที่ขัดเกลาทางสังคมอีกหน่วยหนึ่ง เนืองจากกลุ่มแต่ละกลุ่มย่อมมีระเบียบ ความเชื่อและค่านิยมเฉพาะกลุ่มตนเอง ซึ่งอาจแตกต่างกันออกไป ตามลักษณะกลุ่ม เช่น การแต่งกาย กลุ่มเดียวกันก็จะแต่งกายคล้ายๆกัน 3. โรงเรียน เป็นตัวแทนสังคมที่ทำหน้าที่โดยตรงในการขัดเกลาสมาชิกตั้งแต่ในวัยเด็กจนถึงผู้ใหญ่ โดยอบรมด้านคุณธรรม จริยธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณีต่างๆของสังคม ตลอดจนค่านิยมและทักษะอันจำเป็นให้แก่สมาชิกในสังคม 4. ศาสนา เป็นตัวแทนในการขัดเกลาจิตใจของคนในสังคมยึดมั่นในสิ่งที่ดีงาม มีศีลธรรม จริยธรรม และความประพฤติในทางที่ถูกที่ควรโดยศาสนาจะมีอิทธิพลทางจิตวิทยาต่อบุคคล ในการสร้างบุคลิกภาพเป็นอย่างมาก 5. กลุ่มอาชีพ อาชีพแต่ละประเภทจะมีการจัดระเบียบปฏิบัติเฉพาะกลุ่ม เช่น กลุ่มที่มีอาชีพค้าขายจะต้องมีความซื่อสัตย์ไม่เอาเปรียบลูกค้า ผู้ที่เป็นสมาชิกใหม่ของกลุ่มต่างๆก็ต้องเรียนรู้ประเพณีของกลุ่มอาชีพที่ตนเป็นสมาชิกอยู่ 6.
กลุ่มตัวอย่าง (Sample) หมายถึง ส่วนหนึ่งของประชากรที่นำมาศึกษาซึ่งเป็นตัวแทนของประชากร การที่กลุ่มตัวอย่างจะเป็นตัวแทนที่ดีของประชากรเพื่อการอ้างอิงไปยังประชากรอย่างน่าเชื่อถือได้นั้น จะต้องมีการเลือกตัวอย่างและขนาดตัวอย่างที่เหมาะสม ซึ่งจะต้องอาศัยสถิติเข้ามาช่วยในการสุ่มตัวอย่างและการกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่าง วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่างนั้นประกอบด้วย 6 ขั้นตอนใหญ่ ๆ คือ 1.
การมีส่วนร่วม (Affiliation) หลายคนต้องการเข้ามาทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อที่จะได้มีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม เช่น สมาชิกกลุ่มแม่บ้านต่าง ๆ ชมรมผู้สูงอายุ 5. อำนาจ (Power) เป็นการรวมตัวกันเพื่อสร้างอำนาจในการควบคุม ถ่วงดุล หรือต่อรองกับกลุ่มอำนาจอื่นทำให้สามารถทุ่มเทกำลังความสามารถและทรัพยากรได้อย่างเต็มที่ เช่นการรวมตัวกันของพนักงานเป็นสหภาพแรงงาน (Labor Union) 6. ความก้าวหน้า (Achievement) การรวมพลัง (Synergy) ของแต่ละบุคคลจะส่งผลให้กลุ่มสามารถทำงานให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่ความก้าวหน้าหรือความสำเร็จนั้นจะครอบคลุมถึงความก้าวหน้าของกลุ่มหรือองค์การและความก้าวหน้าส่วนบุคคลของสมาชิก
กลุ่มแบบเป็นทางการ (Formal Group) กลุ่มแบบเป็นทางการ หมายถึงกลุ่มที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมาโดยอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบตามโครงสร้างขององค์การ เพื่อที่จะทำกิจกรรมสนองความต้องการขององค์การ โดยกลุ่มที่เป็นทางการจะถูกแบ่งย่อยออกเป็น 2 ลักษณะ ดังนี้ - กลุ่มตามสายบังคับบัญชา (Command Group) หมายถึงกลุ่มที่ถูกต้องขึ้นมาตามโครงสร้างขององค์การที่มีอยู่แล้ว เพื่อปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายให้สำเร็จ - กลุ่มทำงานเฉพาะ (Task Group) หมายถึงกลุ่มที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อทำกิจกรรมเฉพาะอย่างให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่วางไว้ 2.
เผยแพร่เมื่อ: 16 มิถุนายน 2560 ความหมายของสหกรณ์ สหกรณ์ คือ "องค์การของบรรดาบุคคล ซึ่งรวมกลุ่มกันโดยสมัครใจในการดำเนินวิสาหกิจที่พวกเขาเป็นเจ้าของร่วมกัน และควบคุมตามหลักประชาธิปไตย เพื่อสนองความต้องการ (อันจำเป็น) และความหวังร่วมกันทางเศรษฐกิจ สังคม และ วัฒนธรรม" ****************** บทนิยามของคำ "สหกรณ์" (แก้ไขใหม่) สหกรณ์ น. องค์กรทางเศรษฐกิจและสังคมที่สมาชิกร่วมกันจัดตั้งขึ้นด้วยการลงหุ้นร่วมกัน จัดการร่วมกันในการผลิต การจำหน่ายสินค้า หรือบริการตามความต้องการหรือผลประโยชน์อย่างเดียวกันของบรรดาสมาชิก สมาชิกแต่ละคนมีสิทธิ์ออกเสียงได้หนึ่งเสียงในการบริหารสหกรณ์ โดยไม่ขึ้นกับจำนวนหุ้นที่ถืออยู่ เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์โคนม, (กฎ) คณะบุคคลซึ่งร่วมกันดำเนินกิจการเพื่อประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคม โดยช่วยตนเองและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และได้จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยสหกรณ์. หมายเหตุ จากหนังสือราชบัณฑิตยสถาน ที่ รถ ๐๐๐๔/๘๐๐ ลงวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๕๐
กลุ่มแบบปฐมภูมิ (Primary Group) หมายถึงกลุ่มขนาดเล็กที่เกิดจากความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกันของสมาชิกภายในกลุ่ม โดยความสัมพันธ์ที่กล่าวมามักจะเป็นความสัมพันธ์ส่วนบุคคล เช่น ความสัมพันธ์ทางสายเลือด ความสัมพันธ์ภายในครอบครัว 2. กลุ่มแบบทุติยภูมิ (Secondary Group) หมายถึงกลุ่มขนาดใหญ่ซึ่งความสัมพันธ์ของสมาชิกจะมีลักษณะเป็นทางการ แบะมีความสัมพันธ์ส่วนบุคคลน้อยกว่ากลุ่มแบบปฐมภูมิ เหตุผลที่บุคคลเข้าร่วมในกลุ่ม นอกจากสาเหตุของการมีเป้าหมายร่วมกันแล้ว เรายังสามารถจำแนกเหตุผลของการรวมกลุ่มออกมาได้อีก 6 ประเภท ได้แก่ 1. ความปลอดภัย (Safety) จากการศึกษาเรื่องแรงจูงใจพบว่า ความต้องการความมั่นคงและความปลอดภัย (Security and Safety Needs) เป็นความต้องการขั้นพื้นฐาน (Primary Needs) ที่แต่ละบุคคลต้องการ ซึ่งความปลอดภัยไม่ได้หมายถึงเพียงความปลอดภัยทางกายเท่านั้น แต่หมายถึงความปลอดภัยทางด้านจิตใจและเศรษฐกิจอีกด้วย 2. สถานะ (Status) สมาชิกหลายคนเข้าร่วมกลุ่มต่าง ๆ เพื่อสะท้อนถึงภาพลักษณ์ (Image) หรือสถานะทางสังคม เช่น การเข้าเป็นสมาชิกสโมสรต่าง ๆ 3. การได้รับการนับถือ (Self-esteem) การได้รับการยอมรับนับถือ เป็นความต้องการในขั้นสูงของบุคคล ดังนั้นการเข้าร่วมกลุ่มจะทำให้บุคคลผู้นั้นรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้รับการยอมรับนับถือจากบุคคลภายนอก 4.