ตกแต่งได้สนุก อย่างที่บอกค่ะว่า น้องๆ หลายคนเริ่มใช้สมุดเส้นตารางจากการกะขนาดของตัวอักษร และนั่นเลยถือเป็นจุดเริ่มต้นของน้องๆ สายตกแต่ง short note จากฟร้อนท์สวยๆ ค่ะ ใครที่ชื่นชอบการเขียนสวยๆ แบบ calligraphy หรือมีการเขียนโดยใช้ตัวอักษรขนาดต่างๆ กัน ก็ขอแนะนำสมุดเส้นตารางเลย เขียนสวย และตกแต่ง short note ได้สนุกสนานแน่นอน ใครที่เริ่มสนใจสมุดเส้นตาราง ก็ลองไปซื้อมาใช้กันได้นะคะ เดี๋ยวนี้เริ่มหาซื้อง่ายตามร้านเครื่องเขียนทั่วไปแล้วค่ะ หรือใครที่ยังชอบใช้สมุดแบบเดิมต่อไป ก็ไม่เป็นไรเลยค่ะ แค่อย่าลืมว่า ไม่ว่าจะใช้สมุดแบบไหน ขอให้ตั้งใจจดให้ตัวเองเข้าใจก็พอ:D
กะเกณฑ์ขนาดในการเขียนได้ง่าย สังเกตดูว่าสมุดแบบที่ไม่มีเส้น ก็มักจะทำให้เราเขียนตัวใหญ่เกินไปหรือตัวเล็กเกินไป และบางทีอาจจะทำให้เขียนไม่ตรงกันในบรรทัดเดียวกันด้วยนะคะ สมุดที่มีเส้นก็จะดีขึ้นมาหน่อยค่ะ ที่ทำให้เราเขียนตรงเป็นแนวบรรทัดเดียวกัน แต่ก็ยังทำให้ตัวอักษรของเรา มีขนาดใหญ่-เล็ก ไม่เท่ากันบ้าง แต่สมุดแบบตารางจะทำให้น้องๆ สามารถเขียนได้ตรงเป็นบรรทัดเดียวกัน และกะขนาดของตัวอักษรได้ใหญ่-เล็ก เท่ากันทุกตัว จากตารางที่มีให้ได้ค่ะ 2. วาดกราฟและตารางได้สะดวก อย่าลืมว่ากระดาษแบบมีและไม่มีเส้น จะไม่มีตารางมาให้น้องๆ ค่ะ น้องๆ ต้องวางแผนกันเองว่าจะต้องวัดแต่ละช่องขนาดเท่าไหร่ หรือแบ่งเป็นกี่แถว กี่สดมภ์ ฯลฯ แต่ถ้าน้องๆ เลือกใช้กระดาษแบบเป็นเส้นตาราง ก็จะทำให้การวาดกราฟ และตาราง ง่ายและสะดวกในการแบ่งช่องตารางหรือแบ่งแกนต่างๆ ในกราฟ ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมค่ะ 3. แบ่งสัดส่วนของหน้าได้เร็ว น้องๆ คนไหนที่เจอปัญหาเวลาขีดเส้นแบ่งเป็นสัดส่วนของเนื้อหาในหน้ากระดาษ เบี้ยวบ้าง ไม่ตรงบ้าง ทำให้หงุดหงิดทุกครั้ง ลองใช้กระดาษแบบเส้นตารางที่มีมาเขียนเลคเชอร์หรือจด short note ของเรา ก็จะทำให้เห็นว่า เราสามารถแบ่งช่องเป็นตารางต่างๆ หรือเป็นสัดส่วนได้ง่ายมาก เพราะลักษณะของตารางที่เป็นเส้นตรงทั้งแนวตั้งและแนวนอน ทำให้น้องๆ ไม่ต้องขีดกรอบแบ่งสัดส่วนของหน้ากระดาษ แบบเบี้ยวๆ เอียงๆ อีกต่อไปค่ะ 4.
Notability ถ้าพูดถึงแอป GoodNotes ก็ต้องมีคนพูดถึง Notability ด้วยว่าสองแอปนี้ใช้แอปอะไรดี บางคนมีทั้งสองแอปในเครื่องเดียวกัน ซึ่ง Notability นี้มีฟีเจอร์การใช้งานที่คล้ายๆ กับ GoodNotes แตกต่างกันเล็กๆ น้อยๆ ที่หน้าตาหรือบางฟีเจอร์เท่านั้น แต่ที่โดดเด่นกว่าก็คงจะเป็นฟีเจอร์อัดเสียง นอกนั้นก็แล้วแต่ความชอบหรือความถนัดในการใช้งานของแต่ละคน ดาวน์โหลดแอป Notability ราคา 419. 00 บาท ได้ที่ App Store [ดาวน์โหลด] 4. Notepad+ Pro แอปนี้จะมีราคาที่แพงสักหน่อย โดยราคาอยู่ที่ 699. 00 บาท แต่ฟีเจอร์การใช้งานก็อัดแน่นไปด้วยเช่นกัน ทั้งอีโมชั่นหรือไอคอนต่างๆ ที่มีให้เลือกตกแต่งสมุดโน้ตให้สวยงาม ที่สำคัญคือ สามารถแก้ไขไฟล์ได้หลายรูปแบบ เช่น Excel (), Keynote (), ตัวเลข (), PDF (), Powerpoint (), Word () และอื่นๆ อีกมากมาย ดาวน์โหลด Notepad+ Pro ราคา 699. 00 บาท ได้ที่ App Store [ดาวน์โหลด] 5. Evernote แอปจดโน้ตที่มีความสามารถไม่แพ้กับแอปอื่นๆ แต่ลูกเล่นอาจจะไม่สวยงามหรือหลากหลายเท่าใด โดยสามาถสร้างโน้ตหรือบันทึกได้หลากหลายรูปแบบ เช่น รูปภาพ ไฟล์ภาพ เสียง คลิปบนเว็บไซต์และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งแอปนี้ดาวน์โหลดได้ฟรีแต่ก็จะใช้ได้งานได้บางฟีเจอร์ แต่หากจะใช้ในระดับพรีเมียมก็จะอยู่ที่ 99.
ต้องทำสัญลักษณ์ไว้ตัวโตๆ นะคะ ย้ำว่าถ้าเข้าใจตั้งแต่ในห้องเรียน พอมาทำ short note ใช้เวลาไม่นานก็เสร็จค่ะ 2.